เฮ้ย !!! เลี้ยงเบียร์กูหน่อย

เฮ้ย !!! มึงว่างป่ะ มาเลี้ยงเบียร์กูหน่อย

ประโยคนี้หลายๆคนคงจะเคยพูด หรือเคยเป็นผู้ถูกกระทำมาแล้ว

ผมเองก็เคยทั้งสองอย่าง แต่จะเน้นให้เพื่อนเลี้ยงซะมากกว่า (เมาฟรี ลูกหมาป่า)

กินทีไรก็เมาทุกที ใครไม่เมาสิแปลกคน

แต่เพื่อนผมคนนึงนี่ "เมาแล้วเรื้อน" เมาไม่ได้สติ นอนไหนก็ได้ บางทีก็ป้ายรถเมล์บ้าง กองทรายบ้าง ตามพุ่มไม้บ้าง ดีหน่อยก็ห้องเพื่อน

ไอ้เรานี่ก็เมาทีไรตื่นมาก็จำอะไรไม่ค่อยได้ซักที ว่าเมื่อคืนไปทำอะไรมาบ้าง องค์ลงรึเปล่า
ไม่ก็ไปม่อเมียใครเค้าไว้ ผัวเค้าจะมาเอาคืนตอนไหน

แต่นั่นคือเรื่องในอดีตครับ ปัจจุบันผมเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว กินเบียร์เพื่อสุขภาพก็พอ

กินยังไงให้ได้สุขภาพดี ???
ก็คือกินน้อยๆพอให้เลือดลมมันเดินก็พอ

ประโยชน์ของเบียร์ก็มีมากมายเลย มีอะไรบ้างลองไปดู

1.ป้องกันโรคหัวใจ จากการศึกษาของนักวิชาการพบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มเบียร์ 40 - 60% แต่ควรดื่มไม่เกินครึ่งลิตรต่อวัน 

2.ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต สารที่มีประโยชน์ในเบียร์สามารถช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตัน จึงช่วยป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต 

3.ช่วยลดความดันโลหิต แพทย์ชาวฮอลแลนด์ และจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดค้นพบว่า การดื่มเบียร์ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ 

4.ป้องกันเบาหวาน ผู้ที่ดื่มเบียร์มีจำนวนน้อยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เหตุผลก็คือ เบียร์ทำให้ร่างกายสามารถปรับฮอร์โมนอินซูลิให้ความทรงจำดี   นักดื่มเบียร์จึงไม่ค่อยเป็นโรคอัลไซเมอร์ 

5.ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เบียร์ให้ผลดีต่อกระดูก สามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ แต่ได้ผลเฉพาะกับหนุ่มสาวเท่านั้น 

6.ช่วยให้อายุยืน จากการศึกษามากกว่า 50 สำนัก พบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์วันละ 1 - 2 แก้วมักจะมีอายุที่ยืนยาว เนื่องจากเบียร์มีสารปกป้องหัวใจ 

7.ป้องกันท้องร่วง โมเลกุลในเบียร์มีส่วนประกอบเหมือนกันกับกรดนม และน้ำส้มสายชู สารที่ว่านี้ขัดขวางเชื้อโรคในลำไส้ ที่เป็นสาเหตุของท้องร่วง  ไม่ให้แพร่เชื้อจนท้องเสีย

8.ต้านความเครียด นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Montreal ค้นพบว่า คนทำงานที่ได้ดื่มเบียร์บ้างเป็นครั้งคราวมีความเครียดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเบียร์ 

9.ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดี และในไต นักวิชาการจากเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ค้นพบว่าการดื่มเบียร์วันละหนึ่งขวดก็จะได้รับแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไตได้ถึง 40% 

10.ป้องกันโรคนอนไม่หลับ สารจากดอก Hops ในเบียร์เปรียบเสมือนยานอนหลับจากธรรมชาติ ช่วยให้ประสาทผ่อนคลาย ดังนั้น การดื่มเบียร์หนึ่งแก้วในตอนเย็นจึงเหมือนกับการกินยานอนหลับ 

11.ช่วยต้านมะเร็ง เบียร์มีสารโพลีฟีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันมะเร็ง โดยการดักจับอนุมูลอิสระตัวร้ายออกจากร่างกาย สารโพลีฟีนอยด์หลักก็คือ Xanthohumol ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาการของมะเร็ง

12.ช่วยให้ผิวสวย ในเบียร์มีวิตามินสูง เช่น Pantothenic Acid วิตามินบี 3 และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ ช่วยสร้างคอลลาเจน และเม็ดสี ผิวจึงเรียบเนียน และอ่อนนุม 

รู้อย่างนี้แล้ว จะรออะไร มาสิครับ

มาเลี้ยงเบียร์กูได้แล้ว...

ภาพสาวน่ารักเซ็กซี่ ขยี้อารมณ์

ไม่มีอะไรมาก ดูรูปสาวๆ น่ารักเซ็กซี่ กันดีกว่า...

ร้อยท่า ลีลารัก

เมื่อพูดถึง "SEX"
จะมีหลายคนเลยที่คิดว่าตัวเองเก่งอย่างโน้น เทพอย่างนี้ เอาได้อึด ทน นาน
แต่ยังมีความจริงอย่างนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็มี "ท่าที่ใช้เอากัน" เพราะว่า ไอ้บางคนที่ว่า เอานาน เอาทน แม่งเอาอยู่ท่าเดียว
แล้วสาวๆเค้าจะไม่เบื่อได้ยังไงล่ะ ???

บางคนใหญ่เท่าแขน แต่สู้ของพวกเล็กๆเท่ากล้วยไข่ ไม่ได้ก็มีถมเถไป

เพราะอะไร ???  ก็เพราะว่าใหญ่อย่างเดียวแต่ไร้ลีลา มันก็ทำให้น่าเบื่อไม่ชวนให้น่าติดตามเลย สักแต่ว่าเอาให้กูเสร็จก็พอ ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรบ้าง

แต่บางคนที่เป็นพวก "เล็กสั้นขยันซอย ร้อยท่าใน 3 นาที" สามารถทำให้สาวๆติดใจมา ก็มีให้เห็นเยอะแยะไป

ทีนี้ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง จะใช้ท่าไหนพลิกแพลงอะไรยังไง เอาง่ายๆเลย ก็ดูจากหนังโป๊ไง มีให้ดูกันเยอะแยะ โดยเฉพาะ กูเกิ้ล นี่ เพียบเลยฮะท่านๆทั้งหลาย

ในบิทก็มี ตามกลุ่มเฟส กลุ่มไลน์ก็มากมาย ดูกันจนตาแฉะไปเลย

แต่ถ้าใครดูแล้วยังไม่เข้าใจ ก้มาดูนี่ รูปที่แนบมาให้

แต่ของอย่างนี้มันต้องได้รับความร่วมมือจากทั้ง 2 ฝ่ายด้วยนะ ไม่งั้นอาจจะมีกระดูกกระเดี้ยวหักให้ ถ้าไม่ตกลงท่ากันดีๆ

เหมือนแต่ก่อนเคยได้ยินข่าว ตา-ยาย เล่นท่าพิศดาร กระโดดจากตู้ลงมาบนเตียง เพื่อเล่นท่าทาซาร์น

สรุปแขนขาหัก ต้องเรียกให้ ตำรวจกะรถพยาบาลมาช่วย อายกันไปตามๆกัน

จบดีกว่า เอาเป็นว่าดูรูปละค่อยๆศึกษาไป ลองทำจากท่าง่ายๆไปท่ายากๆดู ไม่นานก็เซียน

บาย...

ไปให้ถึงฝั่งฝันได้ด้วย 7 เคล็ดลับท่าร่วมเพศที่ผู้หญิงชอบ

กลับมาเรื่องที่ถนัดดีกว่า วันนี้จะขอเสนอวิธีที่ทำให้ "เสียวซ่านซาบซ่า" "ความแซ่บ" และสนุกกับการ "อึ๊บๆ" กัน ให้มันสนุกสุดสวิงริงโก้ โยกกันจนตกเตียงไปข้างนึงเลย

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปดูกันโลด...




จุดสุดยอด !!!

ไปถึงได้ด้วย 7 เคล็ดลับท่าร่วมเพศที่ผู้หญิงชอบและถึงจุดสุดยอดมากที่สุด

คงจะมีความสุขกับเซ็กส์ไม่น้อย ที่ทุกครั้งที่ได้ออกศึกบนเตียง แล้วคุณสามารถถึงจุดไคลแม็กซ์ได้ และความจริงคือ ยิ่งคุณออกัสซัม มากเท่าไหร่ เวลาที่คุณมีเซ็กส์ครั้งต่อไป คุณก็จะออกัสซัมได้อีก แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด การหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพของเซ็กส์เป็นสิ่งที่จำ เป็นที่สุดเพื่อความสุขของชีวิตเซ็กส์ อันเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตคนเรานั่นเอง

1. ควบคุมการหายใจ เมื่อรู้สึกกำลังจะถึงจุดไคลแม็กซ์แบ่งได้ 2 แบบ บางคนอาจเหมาะสำหรับการหายใจลึกและยาวขึ้นเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะออกัสซัม แต่สำหรับบางคนเหมาะกับการหายใจแบบถี่ๆ เร็วๆ ซึ่งร่างกายของคุณจะบอกเองกับวิธีการต่างๆ เมื่อได้ลองปฏิบัติดู

2. เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อกระจายพลังออกัสซัมไปให้ทั่ว เวลาที่คุณใกล้จะถึงจุดสุดยอดนั้น การขยับเขยื้อนร่างกายไม่ว่าจะเป็นการเขย่าแขน หรือ ขา หรือ งอ เบี้ยว ร่างกายให้มีการเคลื่อนไหว ไม่ได้อยู่นิ่งๆ เวลาที่คุณใกล้จะถึงจุดไคลแม็กซ์ ก็ช่วยให้คุณได้รู้จักคำว่า ออกัสซั่ม ที่ดีได้ เพราะการเคลื่อนไหวร่างกาย จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจากความเกร็งเกิดความรู้สึกและมีความสุขไปทั่ว

3. หาเส้นแห่งความเสียวของคุณว่าถึงจุดแตกตรงไหน เมื่อรู้ว่าเส้นแห่งความเสียวของคุณคือช่วงไหน เมื่อไหร่คุณจะไปถึงจุดแตกตรงนั้น ก็พยายามเพลาๆ มือลง หรือทำให้ช้าลง เพื่อคุณจะได้มีกิจกรรมเซ็กส์ที่นานขึ้น ยิ่งนานการสัมผัสถึงออกัสซั่มก็จะมีมากขึ้นนั่นเอง คือ อย่าล้ำเส้นแตกเร็วเกินไป แต่ขอให้เล่นกันใต้เส้นก่อนนานที่สุด อย่างน้อย 3-4 ครั้ง ก่อนที่จะพาคุณก้าวข้ามเส้นไปถึงจุดสุดยอด

  4. ขมิบรูทวาร และกระดูกเชิงกราน เพื่อสร้างการออกัสซั่ม ที่สุดยอดมากกว่าเดิม วิธีนี้ช่วยเพิ่มระดับการไหลเวียนของเลือด ยิ่งมีเลือดไปเลี้ยงมากเท่าไหร่ ระดับของออกัสซั่มก็จะมากขึ้นไปด้วย

5. เกร็งกล้ามเนื้อแล้วผ่อนคลายเวลามีเซ็กส์และใกล้ถึงจุดสุดยอด การเกร็งจะช่วยให้คุณรู้สึกเสียวซ่านทั่วร่างกาย แต่พอเมื่อคลายออกคุณจะรู้สึกโล่งสบายเนื้อสบายตัว

6. การไปถึงจุดสุดยอด ไม่ได้อาศัยเฉพาะเพียงอวัยวะเพศอย่างเดียว นี่ ไม่ได้หมายความว่าเครื่องเพศของคุณไม่มีประโยชน์ แต่ร่างกายของคนเราประกอบด้วยส่วนอื่นๆ ที่มีจุดแห่งความเสียวซ่านอยู่ ดังนั้นจุดต่างๆ เหล่านี้สามารถนำมาใช้ประกอบการสร้างเซ็กส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณอาจกระตุ้นส่วนนั้นของร่างกายในขณะใกล้จะถึงจุดสุดยอด แล้วคุณอาจจะพบว่า ส่วนนั้นของร่างกายที่ไม่ใช่ เครื่องเพศก็สามารถเพิ่มระดับของจุดสุดยอดให้สูงขึ้นได้

7. ใช้จินตนาการสร้างออกัสซั่มให้พรั่งพรู ยิ่งคนที่ไม่เคยลองฝึกใช้จินตนาการเพ้อฝันถึงการมีเซ็กส์ยิ่งควรลองใช้ คุณจะได้รู้ว่า จินตนาการที่เต็มไปด้วยเรื่องเซ็กส์เหล่านี้ มีส่วนช่วยให้คุณไปถึงฝั่งฝันได้อย่างไร

 หลักการสร้าง  “จุดสุดยอด”  ที่ดียิ่งขึ้น

+ วิธีที่ได้ผลสำหรับคุณ อาจใช้ไม่ได้ผลกับคนอื่น ฉะนั้นวิธีการสร้างเซ็กส์ให้ถึงจุดไคลแม็กซ์ จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้

+ ตัวคุณเป็นเครื่องวัดความสำเร็จ ถ้าคุณแฮปปี้แสดงว่าคุณบรรลุเป้าหมายแล้ว

+ ไม่มีคำว่าถูกหรือผิดในการไปถึงจุดสุดยอด ถ้าหากมันใช้ได้ผล นั่นก็เพียงพอแล้ว

+ ถ้าคุณมีความสุข และไม่ได้ทำร้ายใคร การออกัสซั่มนั้นก็ถือว่าเป็นอันใช้ได้

เป็นไงล่ะที่นี้ เริ่มอยากที่จะสนุกกันแล้วใช่ไหมพี่น้อง ข้อควรระวังอย่าหักโหมหลาย เดี๋ยวจะไม่มีเรียวมีแรงไปทำอย่างอื่นได้ และอย่าไปทำกะเมียชาวบ้านเค้าล่ะ จะโดนผัวเค้าฆ่าเอา

ไปล่ะเว้ย...

กุศโลบายสหรัฐต่อมิสยูนิเวิร์ส

หลังจากที่เมื่อวานได้รับข่าวสารเรื่องการประกวด Miss Univese ทางสื่อโซเชี่ยล (ไม่ได้ดูจากทีวี) ที่มีผลการตัดสินออกมาอย่างมี เงี่ยนงำ
ก็ได้มีควันหลงจากการประกวด Miss Universe 2015 ก็ยังมีออกมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น นางงามฟิลิปปินส์ได้รางวัลเพราะ เป็น "กิ๊ก" กันคนใหญ่คนโตของประเทศ จึงได้รับเลือกแทน โคลัมเบีย

หรือแม้กระทั่ง ดราม่า เรื่องชุดประจำชาติของไทย

ที่มี ศิลปินแห่งชาติ มาพูดว่า ดีแล้วที่ตกรอบอะไรงี้ เข้ารอบไปจะโดนคำถามเกี่ยวกับการเมือง ไม่ก็ ม.112 ดันโยงไปเรื่องการเมืองได้ไงก็ไม่รู้กะมัน กูล่ะงงจริงๆ

แล้วก็มีนักข่าวอาวุโส หรือนักวิชาการท่านนึงได้มาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเมืองกับการประกวดนางงาม ว่าเกิดขึ้นมาแล้วมากมาย รวมถึงประเทศไทยเราด้วย

โดยมีเนื้อหาว่า

กุศโลบายสหรัฐต่อมิสยูนิเวิร์ส


หลักที่สหรัฐใช้ กลยุทธ์ทางการเมือง ให้ นางงามฟิลิปปินส์ ได้รับรางวัล มิสยูนิเวิร์ส เพื่อหวังฟิลิปปินส์ ยอมให้เป็นฐานทัพในการรบเพื่อต่อสู้กับจีน เพื่อทำสงครามแย่งชิงหมู่เกาะสแปรชรี่ ในทะเลจีนใต้ อันเป็นแหล่งน้ำมันมูลค่ามหาศาลที่จีนได้สร้างฐานทัพไว้

หลักนี้สหรัฐเคยใช้กับไทย ให้ อาภัสรา หงสกุล เป็น มิสยูนิเวิร์ส ครองมงกุฎนางงามจักรวาล ค.ศ. 1965 เป็นนางงามจักรวาลคนที่ 14 และคนที่ 2 ของเอเชียจนถูกตั้งฉายา มิสอู่ตะเภา ในยุครัฐบาล จอมพลถนอม กิติขจร เพื่อขอให้อู่ตะเภา หรือ นิวแลนด์ เป็นฐานทัพในการทำสงครามกับเวียดนาม และรุกรานดินแดนจีน จนส่งผลให้จีนต้องสนับสนุน ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยมีฐานบัญชาการ ที่ปักกิ่ง สั่งงานผ่านคลื่นวิทยุ HF คลื่นสั้น จากสถานีวิทยุปักกิ่ง จนเกิดสงครามคอมมิวนิสต์ในไทยยาวนานกว่า 20 ปี

จนมีประชาชนคนไทยออกมาขับไล่ จอมพลถนอม กิติขจร ต่อด้วย จอมพลประภาศ จารุเสถียร (นอมินี)จนเกิดกระแสขับไล่ ถนอม ประภาศ ขึ้นมาและยกเลิกสนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานทัพสหรัฐ สงครามคอมมิวนิสต์จึงได้ยุติลงในไทย สหรัฐจึงพ่ายแพ้ในสงครามเวียดนาม ส่วนหนึ่งยังมาจากเหตุที่ ประธานาธิบดี จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี มีนโยบายถอนทหารออกจากเวียดนาม ถูกลอบสังหาร ที่เมืองแดลลัส รัฐเทกซัส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963 ต่อมาน้องชาย จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี คือ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี ถูกลอบสังหารอีก หลังเที่ยงคืนในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1968 ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยใช้นโยบายเดียวกันกับ จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี คือถอนทหารออกจากเวียดนาม จนได้รับการเลือกตั้ง เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐคนที่ 25

เหตุการณ์มิสยูนิเวิร์ส ครั้งล่าสุด เมื่อ 21 ธันวาคม 2558 เกิดขึ้นหลังจากที่ สหรัฐส่ง แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมายังไทย เมื่อ 16 ธันวาคม 2558 เพื่อแสดงท่าทีเจรจายุทธศาตร์ไทย-สหรัฐ โดยขอใช้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพ ขอเจรจายกพลังงานในอ่าวไทยให้สหรัฐ แต่ไทยปฎิเสธอ้างได้ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินสากล เชิงพาณิชย์ไปเสียแล้ว และยังเลื่อนสัมปทานสำรวจนำ้มัน ฉบับที่ 21 ออกไป จึงไม่ต้องแปลกใจที่สื่อสหรัฐ องค์กรเอกชนสหรัฐ หันมาโจมตีไทย อ้างเหตุเรื่องการค้ามนุษย์ โหดเหี้ยม และอ้างจะมีสัมพันธิ์ที่ดีกับไทยหากมีเลือกตั้ง โจมตีตลาดหุ้นไทยจนอยู่ในสภาวะตกต่ำที่สุด โจมตีค่าเงินบาทไทยให้อ่อนค่า จนถึง 36.20 บาท/ดอลล่าร์ โจมตีการท่องเที่ยวด้วยการหยุดส่งนักท่องเที่ยวยุโรปมาไทย จนนักลงทุนหวาดกลัวไม่กล้าลงทุน นักท่องเที่ยวหาย ส่งออกติดลบสูงสุดในรอบ 10 ปี เงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 6 ปี

หากฟิลิปปินส์ยอมให้สหรัฐตั้งฐานทัพ สิ่งที่ฟิลิปปินน์ต้องเผชิญคงมิพ้นภัยคอมมิวนิสต์ เหมือนกับไทย ดั่งวันเสียงปืนแตก คือ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยใช้อาวุธโจมตีกองกำลังรัฐบาลไทย เป็นครั้งแรก กองกำลังของพรรคได้เรียกตนเองว่า กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เหตุเกิดที่ บ้านนาบัว ตำบลเรณูนคร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ทั้งนี้ได้ประกาศยุทธศาสตร์ "ต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธ ใช้ชนบทล้อมเมือง และยึดเมือง" หลังจากวันเสียงปืนแตก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยก็ต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐบาลไทยมาตลอด จนกระทั่งปี พ.ศ. 2525 มีการเจรจากับรัฐบาล เลิกต่อสู้กันด้วยอาวุธ ให้มาต่อสู้กันทางรัฐสภาแทน

สหรัฐยังสร้างหนังเรื่องสตาร์วอร์ ที่มีอายุยาวนานกว่า 32 ปี โดยในตอนนี้ยังยกให้คนดำเป็นพระเอก แถม บารัก โอบามา และ ทำเนียบขาว ยังเชิญชวนคนทั้งโลกไปชม เพื่อยกย่องวิวัฒนการที่ทันสมัยของสหรัฐข่มขวัญศัตรู อันเป็นหลักจิตวิทยาทางสงคราม ก่อนจะทำสงครามครั้งใหญ่ราวต้นปี 2559

แน่นอน เมื่อพ้นคริสมาส 25 ธันวาคม 2558 และ ปีใหม่ 31 ธันวาคม 2558-14 มกราคม 2559 ราว 15 มกราคม 2559 เป็นต้นไปเมื่อกระแสปีใหม่จางลง สหรัฐ สหภาพยุโรป คงมิพ้นที่จะหาเรื่องต่อต้านรัฐบาลทหารไทย ทั้งค้ามนุษย์ การบินพลเรือน ลิขสิทธิ์สินค้า ส่งออก ตลาดหุ้น ท่องเที่ยว เงินบาท เศรษฐกิจ ฯลฯ หนักหน่วงยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบันมาก แม้รัฐบาลทหารจะแก้อย่างไรก็ตาม ประกอบกับไทยต้องเผชิญกับภัยแล้ง สภาวะเศรษฐกิจที่พ้นพิษจากประชานิยม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับต้องเผชิญกับสภาวะสงครามในเอเซีย และตะวันออกกลาง ทางออกจึงมีทางเดียวดั่งเคยว่าไว้ จะเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองที่สุด

"วีระบุรุษที่แท้จริง คือผู้เปลี่ยนแปลงอนาคต"
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
22 ธันวาคม 2558


ข้อมูลอ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาภัสรา หงสกุล
https://th.wikipedia.org/wiki/อาภัสรา_หงสกุล
จอห์น เอฟ. เคนเนดี
https://th.wikipedia.org/wiki/จอห์น_เอฟ._เคนเนดี
คอมมิวนิสต์ในประเทศไทย
https://th.wikipedia.org/wiki/คอมมิวนิสต์ในประเทศไทย
การลอบสังหารโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี
https://th.wikipedia.org/…/การลอบสังหารโรเบิร์ต_เอฟ._เคนเนดี
เปิดกลยุทธ์ฝรั่งก่อนเจรจาไทย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1084167094956492&set=a.155680914471786.30862.100000896352202&type=3&theater
เมื่อ34ปท.มุสลิมประกาศสงครามกับยุโรป
https://www.facebook.com/454886191215595/photos/a.457115727659308.88659.454886191215595/959214614116081/?type=3

ใครจะเชื่อหรืออะไรยังไงก็แล้วแต่พวกคุณๆกันนะครับ ส่วนผมอ่านไว้เป็นวิทยาทาน หรือประดับความรู้ไว้ก็พอ

ไปล่ะหากินข้าวดีกว่า...

วิธีปลุกอารมณ์เพศให้ตัวเอง

ถ้าคุณเหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ คุณมีงานยุ่งละคุณทำงานหนัก พอถึงเวลาสิ้นสุดของวัน สมองของคุณก็ยังหมุนจี๋อยู่ ทำให้ยากที่จะมีอารมณ์พิศวาส คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเย็นลงเพื่อที่คุณจะสามารถจุดไฟปรารถนาของคุณและสนุกกับเซ็กซ์ของคุณอย่างที่ควรได้รับ พับผ่าสิ!


        ช่วงเช้าของวัน คุณมีความตั้งใจอันซุกซนที่จะขย้ำผู้ชายของคุณในทันทีที่คุณถึงบ้านจากที่ทำงาน แต่จากนั้นเจ้านายของคุณก็มอบหมายงาน “ด่วนบรรลัยจักร” ให้คุณทำ พอเลิกงาน ขณะสตาร์ทรถจะกลับบ้าน คุณก็นึกถึงผ้ากองใหญ่ที่จะต้องซัก พอถึงบ้าน สมองของคุณก็เต็มไปด้วยรายการงานบ้านอันยาวเหยียด และในขณะที่อารมณ์เซ็กซ์กำลังจะดีคุณก็กำลังปั่นชุดชั้นในอยู่
     
       “ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะหงุดหงิดง่ายกว่าผู้ชาย เช่น ความกังวลเล็กๆ น้อยๆ ก่อนและระหว่างมีเซ็กซ์ ซึ่งสามารถทำให้รถไฟชื่อปรารถนาของคุณ ตกรางได้” ดร.เด็บบี้ เฮอร์เบนิค ผู้เขียนหนังสือ Because It Feels Good กล่าว
     
       “ขณะถูกโปรแกรมด้วยงานบานตะไท มันก็ยากสำหรับผู้หญิงที่จะปิดสวิทช์เรื่องงานแล้วเปิดสวิทช์เรื่องส่วนตัวที่เซ็กซี่กว่า” และด้วยเหตุที่ผู้หญิงมีงานยุ่งกว่าแต่ก่อน อารมณ์เพศของพวกเธอก็ถูกกระทบรุนแรงขึ้น
     
       ยิ่งกว่านั้น การวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย แสดงให้เห็นว่าสำหรับผู้หญิงหลายคนนั้น การกระตุ้นอารมณ์ไม่ใช่สวิทช์ที่จะเปิดปิดกันได้ง่ายๆ อย่างผู้ชาย ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเกิดความปรารถนาตามผลลัพธ์ของเซ็กซ์ กล่าวคือ พวกเธอเริ่มต้นจากความเป็นกลางทางอารมณ์เพศ แล้วก็ค่อยๆ เครื่องร้อนขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็หมายความว่าผู้หญิงต้องทำสิ่งต่างๆ อย่างจริงจังตลอดทั้งวัน เพื่อดำรงรักษาอารมณ์ปรารถนาของพวกเธอไว้ให้ได้
     
       ทำอย่างไร?
     
       ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำในการเปิดสวิทช์อารมณ์ของคุณไว้ดังต่อไปนี้
     
       ทำบ้านของคุณให้เป็นมิตร
     
       “ความเกะกะเรี่ยราดเป็นหนึ่งในความหงุดหงิดอันยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้หญิง” ดร.เด็บบี้พูด
     
       “แทนที่จะพุ่งความสนใจไปที่ความเร่าร้อนของผู้ชายของคุณและคุณต้องการเขาขนาดไหน คุณกลับต้องมาคิดว่าห้องนี้มันสกปรกยังกะรังหนู ฉันต้องทำความสะอาดมันจริงๆแล้ว”
     
       ดังนั้น จงขจัดอุปสรรค์อันน่าหงุดหงิดนั้นเสียด้วยการตื่นนอนเร็วขึ้น 10นาที เพื่อที่คุณจะมีเวลาในการเก็บเครื่องเป่าผมและเครื่องแต่งหน้าให้เข้าที่เข้าทาง แขวนเสื้อผ้าที่ปกติคุณทิ้งเรี่ยราดไว้บนพื้นห้องนอนเข้าตู้ซะ และทำเตียงให้เรียบร้อย
     
       ฟื้นฟูอารมณ์เซ็กซ์ภายใน
     
       กลิ่นคือ ความรู้สึกอันทรงพลังอย่างแท้จริงซึ่งผูกพันกับความทรงจำอันแนบแน่นด้วย อย่างเช่น กลิ่นน้ำหอมห้องน้ำที่คุณพรมในคืนที่คุณถึงจุดสุดยอดนั่นแหละ ดังนั้นจงพกน้ำหอมขวดนั้นไว้ในกระเป๋าถือของคุณ แล้วหยิบมันออกมาสูดดมนิดหน่อยในช่วงกลางของเวลาทำงาน จากนั้นก็รอผลลัพธ์ของมัน
     
       “ในสภาพแวดล้อมอันสะอาดสะอ้านอย่างที่ทำงานของคุณนั้น มันสำคัญมากในการเตือนความจำตัวเองว่าคุณเซ็กซี่อยู่เสมอ” ดร.เด็บบี้กล่าว


        แบ่งปันเรื่องซุกซนกับเขา
     
       มันสำคัญมากในการดำรงสายสัมพันธ์กับผู้ชายของคุณในระหว่างวัน “อี-เมล์และข้อความแบบจีบเจ๊าะแจ๊ะที่สร้างความคาดหวัง จะช่วยให้คุณรู้สึกพร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อคุณถึงบ้าน”แพทย์หญิง เจนนิเฟอร์ เบอร์แมน ผู้เขียน Secrets of the Sexually Satisfied Woman กล่าว
     
       ดังนั้นจงส่งข้อความดังกล่าวและภาพร่องอกของคุณให้เขาการตอบของเขาน่าจะเป็น “ได้เลย เดี๋ยวเจอกัน”ซึ่งจะเป็นการยั่วยุอารมณ์ของคุณให้ตื่นเต้นและคาดหวังยิ่งขึ้นอีก
     
       ขจัดตัวทำลายอารมณ์เซ็กซ์
     
       “ก่อนคุณปิดคอมพิวเตอร์ของคุณในที่ทำงาน ให้คุณทำรายการของทุกอย่างที่คุณจำเป็นที่ต้องทำในวันต่อไปเก็บไว้”ดร.บาร์บาร่า คีสลิง ผู้เขียน The Good Girl’s Guide to Bad-Girl Sex กล่าว วิธีนี้คุณจะไม่ต้องมัวแต่คิดถึงสิ่งที่จะทำในวันรุ่งขึ้นตลอดคืน
     
       “มันทำให้คุณขีดเส้นใต้ของวันนั้นได้เลย และคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับทุกสิ่งในรายการนั้นไปได้อีก 12 ชั่วโมง”
     
       หว่านเสน่ห์กับผู้ชายคนอื่นๆ
     
       เล่นหูเล่นตากับชายแปลกหน้าที่น่ารักคนหนึ่ง แม้ว่าคุณจะมีแฟนอยู่แล้ว จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแม็คกิลล์ พบว่าหลังจากผู้หญิงทำเจ้าชู้กับผู้ชายคนอื่น จะรู้สึกมีเสน่ห์กับคู่รักของตัวเองมากขึ้น และจะร่วมขยายความสัมพันธ์กันได้ดีขึ้น
     
       ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงหน้าบาร์เทนเดอร์รูปหล่อที่เคาน์เตอร์เหล้าหรือเข็นรถเข็นชนกับหนุ่มเซ็กซี่ในซูเปอร์มาร์เก็ต ให้ส่งยิ้มหวานและคุยเจ๊าะแจ๊ะนิดหน่อยกับเขาก่อนเดินจากกัน
     
       อาบน้ำล้างตัวนิดหน่อย
     
       ด้วยเหตุที่การนั่งเป็นเวลา8ชั่วโมงในเสื้อผ้าชุดเดิมระหว่างการทำงานทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ดังนั้นทันทีที่คุณถึงบ้าน ให้เข้าห้องน้ำเพื่อล้างเนื้อล้างตัวซะ (คุณไม่จำเป็นต้องทำให้ผมคุณเปียก)
     
       “นี่เป็นการส่งสัญญาณให้สมองของคุณรู้ว่าคุณกำลังจะเริ่มต้นใหม่ และเมื่อตัวคุณสะอาด คุณจะรู้สึกสบายใจในการอยู่ใกล้ชิดกับใครบางคน” ดร.เด็บบี้ กล่าว
     
       ยิ่งกว่านั้นตอนอาบน้ำมีโอกาสที่จะช่วยคุณพบความเพลิดเพลินอันเซ็กซี่ กล่าวคือขณะคุณกำลังถูสบู่ ให้เพ่งเล็งความรู้สึกว่าเมื่อนิ้วของคุณสัมผัสกับผิวหนัง มันเพลินดีอย่างไร และมันสบายตัวเหลือเกินดีได้เปลือยกายหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน
     
       แต่งตัวสำหรับการปฏิบัติที่คุณต้องการ
     
       หลังจากคุณเช็ดตัวแล้ว ให้คุณหักห้ามใจที่จะสวมใส่ชุดอยู่บ้านตามปกติของคุณ แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาเป็นชุดชั้นในอันวาบหวาม แค่เสื้อยืดคอวีกับกางเกงผ้ายืดขาสั้นก็พอ
     
       “มันสำคัญมากที่จะทำให้ตัวเองดูเหมือนต้องการมีเซ็กซ์” ดร.เบอร์แมนพูด “เพราะชุดกีฬาแบบนั้นมันจะทำให้คนรู้สึกพร้อมที่จะออกกำลังกามยิ่งขึ้น”
     
       ให้เขาสัมผัสคุณ
     
       “มันสำคัญมากในการสงวนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อเป็น ‘เขตกันชน’ สำหรับการเชื่อมโยงกับผู้ชายของคุณ จากนั้นก็ค่อยๆ เริ่มเข้าสู่การปฏิบัติการ” ดร.เด็บบี้บอก วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างอารมณ์และเริ่มกิจกามก็คือให้เขาส่งข่าวสารให้คุณ
     
       “ร่างกายของคุณจะเริ่มมีความปรารถนาและการสร้างอารมณ์อย่างช้าๆ จะทำให้สมองของคุณตามทัน” ดร.เด็บบี้อธิบาย
     
       ..จากนั้นก็ปล่อยให้สงครามใต้สะดือเริ่มต้น...

พอหนังท้องตึง หนังตามันก็เริ่มหย่อน

เมื่อเช้าตื่นมาก็ตอนประมาณ 8 โมงเช้า ที่ตื่นก็เพราะว่า เมียเข้ามาทำเสียงก็อกแก๊กๆอยู่ที่เตียง พอตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือ "ขี้" ไม่ก็ "สูบยา" แต่วันนี้เลือกที่จะ "ขี้" ก่อน

ก็นั่นล่ะฮะ ทั่นผู้ชม
พอขี้เสร็จ ของเก่าออกไป ก็ต้องการของใหม่เข้ามาทดแทน

พอดีที่บ้านซื้อ "ข้าวเหนียวหมูปิ้ง" มา 2 ถุง ถุงละ 5 ไม้ ข้าวเหนียวอีก 4 ห่อ
พอเห็นเท่านั้นล่ะ ก็ต้องจัดสิครับ จะรออะไร
เลยจัดข้าวเหนียวไป 2 ห่อ หมูปิ้ง 3 ไม้ กว่าจะกินเสร็จก็ล่อไป 9 โมงกว่า

พอกินเสร็จเท่านั้นล่ะครับ อาการก็เริ่มมาเลย
อยู่ดีๆ ก็เริ่มหาว ทั้งๆที่ กูเพิ่งตื่นเนี่ยะนะ 

ก็พยายามที่จะฝืนถ่างตาไว้ ฝืนไว้ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ต้องยอมแพ้
ขึ้นมานอน ตอนเกือบๆ 10 โมง ตื่นมาอีกที ล่อไปบ่ายโมงกว่าๆ
ก็เลยเริ่มสงสัยว่าทำไมถึงง่วงหนักขนาดนี้ เลยเริ่มเข้า อากู๋ ก่อนเลย

จึงไปเจอข้อมูลมาเกี่ยวกับพวกอาหารที่ยัดห่าเข้าไปแล้ว ทำให้เราง่วงนอนมาแบ่งปันกัน

เผื่อใครที่อยากนอนแต่นอนไม่หลับไปหามากินกัน

หามาได้ 5 อย่าง มีดังนี้

 1.ข้าวเหนียว
ข้าวเหนียวและอย่างอื่นที่มีข้าวเหนียว นอกจากจะมี carbohydrate สูงแล้วยังมี tryptophan สูงด้วย การรับประทานอาหารที่มี 2 ตัวนี้สูงทั้งคู่ ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนประเภท serotonin และ melatonin มากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการง่วง ตามปกติเรามักจะกินข้าวเหนียวกับอาหารพวกโปรตีน ซึ่งอาหารที่มีโปรตีนสูงเหล่านั้น ก็มักจะมี tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง tryptophan จะช่วยให้ร่ายกายหลั่ง niacin ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายหลั่ง serotonin เป็นลำดับต่อไป ซึ่งเจ้าตัวหลังมีฤทธิ์ทำให้สมองผ่อนคลายและรู้สึกง่วง

 2.กาแฟ
อย่างแรกที่คนนึกถึงเมื่อเวลาง่วงก็ต้องเป็นกาแฟ แต่ถ้าเราดื่มกาแฟในขณะที่กระเพาะอาหารยังว่างอยู่จะทำให้เกิดอาการง่วงนอน ได้ เพราะหลังจากดื่มกาแฟไป 30 นาที คาแฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะเข้าไปในกระแสเลือด และถูกส่งต่อไปที่สมอง โดยขณะนั้นเองออกซิเจนที่ถูกลำเลียงไปเลี้ยงสมอง ก็จะถูกสกัดกั้นเอาไว้ ทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการง่วงนอนตามมา

 3.ขนมปัง เค้ก คุกกี้
เป็นอีกจำพวกที่ทานแล้วง่วงครัวซองต์ จะมีปริมาณแป้งขัดขาวและไขมันมาก ซึ่งจะต้องใช้พลังงานในการย่อย ดังนั้น ถ้าเราทานครัวซองต์ 2-3 ชิ้น เราจะง่วงทันที ขนมปังขาว มีสารอาหารจำพวกคาร์โปไฮเดรตชนิดเร่งด่วน ซึ่งทำให้ตับอ่อนหลั่งสารอินซูลินออกมามาก ทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงและทำให้ง่วงนอน ส่วนเค้ก คุกกี้ จะทำให้วิตามินบีออกจากร่างกายเราเร็วขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการง่วงนอนร่างกายก็ต้องดึงเลือดจาดสมองมาที่กระเพาะ อาหารเป็นจำนวนมาก ทำให้เลือดที่สมองมีไม่เพียงพอจึงทำให้เกิดอาการง่วงนอน

 4.ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลต มีสาร Phenylethylamine ในช็อกโกแลตจะทำให้ง่วงนอน ใครหลายๆ คนที่ชอบทานช็อกโกแลต บ่อยๆ แล้วง่วงนอน ดังนั้น ช็อกโกแลต จึงเปรียบเสมือนยาที่ช่วยให้นอนหลับ แต่ถ้าหากมีโกโก้ในปริมาณสูงก็จะทำให้รู้สึกมีความสุขเรียกได้ว่า ทั้ง ง่วง อ้วน และมีความสุขในตัวของมัน
รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่มีภารกิจที่ต้องทำมากมายในแต่ละวัน เราควรที่จะหลียกเลี่ยงอาหารประเภทนี้เอาไว้กินในช่วงเวลาว่างๆ หรือวันหยุดสบายๆ แต่ถ้าจะบริโภค ก็ควรที่จะบริโภคในปริมาณที่น้อยๆ ลง.

 5.กล้วย
ภายในกล้วยจะมีฮอร์โมนเซโรโทนินและนอร์เอพิเนฟริน ที่จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ดังนั้น ถ้าเราทานกล้วยมากจนเกินไป ก็จะทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการไม่อยากขยับเขยื้อนร่างกายได้ หรือเรียกง่ายๆ อยากจะนอนอยากหลับ ถ้าใครไม่อยากง่วงก็อย่ารับประทานกล้วยในเวลาพักกลางวันก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหลับกลางอากาศได้ง่ายๆ


ทีนี้ก็รู้กันแล้วว่า กินอะไรจะทำให้ง่วง ก็อยู่ที่คุณๆกันแล้วครับ ว่าจะเลือกกินอะไรดี...